บันทึก 1,000 กม. แรก
Milestone records 1,000 Kms !
เริ่มตั้งเป้า 1 มิ.ย. 61 ( วิ่งวันละ 10 กม. )
ผ่านมา 95 วัน รวมระยะทาง ~ 1,000 กม.
ถ้ารักษาระยะนี้ไว้ได้ … 1 ปี = 4,000 กม.
next Passion = 365 days 4,000 kms.
บันทึกพันโลแรก …
> ผอมลง
> หน้าไม่กลมละ
> ขาไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิด
> เข่าปกติ ไม่เจ็บ ( ถ้าวิ่งแบบครูดินสอน )
> เล็บม่วงดำ ( นิ้วชี้ขวา & ซ้าย )
> หน้า-แขน-ขา คล้ำ
> หน้าลอกเป็นแผ่น หลังจาก full marathon แรก
> หน้าขาวเหมือนเดิม หลังจากลอก 🤪
> asics kinsei เนื้อผ้าทะลุนิ้วโป้งขวา
> brooks glycerine 14 ไม่เด้งแล้ว & พื้นสึก
> ย้ายค่ายมาลองเทคโนโลยี Everun ของ Saucony ( วันนี้วันแรกของ Kinvara 9 )
> ค้นพบว่า ไม่ใช่รองเท้าอะไรก็ได้
> ค้นพบว่า ไม่ใช่ถุงเท้าอะไรก็ได้
> ค้นพบว่า ไม่ใช่ผูกเชือกรองเท้าแบบไหนก็ได้
> ค้นพบว่า ไม่ใช่กางเกงอะไรก็ได้ ( เสียดสีตอนวิ่งไกลนี่แย่เลย )
> 1-8 ปีที่แล้ว Runtastic อย่างเดียว ( สมัยก่อนมีแอพนี้แอพเดียว )
> ปีนี้ใช้แอพ Nike Run และแอพ Endomondo ( 2 แอพนี้จะมีเพื่อนมากระตุ้นให้วิ่งต่อเนื่อง )
> ถุงเท้าแบบสวมทั้งนิ้วที่ดีคือ injinji
> ถุงเท้าแบบ เด้ง กระชับ แต่นุ่ม คือ Balega
> เพิ่งรู้ว่าควรเผื่อเบอร์รองเท้า ซัก 0.5-1 เบอร์ ก็ตอนเล็บม่วงแล้ว
> เพิ่งรู้ว่า ควรผูกเชือกรองเท้าให้เหมาะสม ก็ตอนเล็บม่วงแล้ว
> เหงื่อเต็มไปด้วย โซเดียม โพรแทสเซียม ควรเอามมันออกจากร่างกายบ้าง
> ถ้าร่างกายขาดโซเดียม โพรแทสเซียม จะเป็นตะคิวได้ แก้ด้วยการดื่มเกลือกแร่ ( โซเดียม โพรแทสเซียม )
> การลงเท้าที่ส้น ทำให้เข่าเจ็บ
> การลงเท้าที่ปลายเท้า ทำให้น่อง & เอ็นร้อยหวายเจ็บ
> ถ้ากล้ามเนื้อไม่แข็งแรง ลงเท้าแบบไหนก็เจ็บ
> ถ้ากล้ามเนื้อแข็งแรง ลงเท้าแบบไหนก็ไม่เจ็บ
> ลงเท้าแบบไหนก็ได้ ขอให้เข่างอนิดนึง แล้วเท้าต้องไม่เลยเข่า
> ดูว่าตัวเองลงเท้ายังไง ดูยากจริงๆ ต้องถ่าย vdo แล้วมาเปิดดู
> ช่วงเวลาวิ่งคือช่วงที่มีสมาธิที่สุด โดยไม่มีอะไรมาทำให้ว็อกแว็ก
> มาราธอน ไม่มีทางลัด ต้องผ่านการซ้อม
> มาราธอน คือกีฬาที่วัดใจเป็นหลัก ส่วนร่างกายเป็นรอง
> เมื่อวิ่งวันแรกซัก 3 กม. จะปวดเมื่อยไปแค่ 3 วัน
> เมื่อวิ่งติด 3 วัน ร่างกายจะเริ่มชิน
> เมื่อวิ่งติด 3 สัปดาห์ เราจะรู้สึกเหมือนกำลังเดิน ( ไม่เหนื่อย )
> เมื่อวิ่งติด 3 เดือน ………………………………..
20180906://TNK.Theory
