SRISAKET RUN 2019 – รับหน้าที่ pacer ครั้งแรก

เรื่องของเรื่องคือ เพื่อนคนเดิมพิมพ์มาถาม

เพื่อน : “อยากลองเป็น PACER ไหม”
ผม : “หืมมม ?”

คุยไปคุยมา ก็ตอบตกลงเป็น Pacer งาน SRISAKET RUN 2019
ระยะ Half Marathon
เวลา 2 ชม. 30 นาที
ถ้าระยะเป๊ะ 21.1 กม. ก็จะต้องวิ่ง Pace 7’06”

ระยะ Half ปกติจะวิ่งที่ pace 6’10”

การปรับเปลี่ยนเพิ่มอีก 1 นาที / 1 กม. รู้สึกขัดๆ ลองซ้อมวิ่งแล้วเมื่อยขากว่าปกติ

เช้าวันเสาร์ ออกจากบ้าน 10 โมงเช้า แวะแทบทุกปั๊มเลย ( ปวดจี่ ) ภาพนี้อยู่ในร้านคอฟฟี่ปัง บรรยากาศดี แต่น้ำและขนม…..(จุดๆๆ)…….

ไปถึงศรีสะเกษ ขึ้นที่พัก แล้วหาอาหารกิน

ถามเพื่อนๆแนะนำร้าน BARCO

search google map แล้วก็นำไป

หิวมาก ไปถึงต้องลองสั่งของแปลก เลือก “ข้าวผัดน้ำสุกี้หมูทอด”
มันแปลกๆ แต่อร่อยดีแฮะ น้ำสุกี้เหมือนเป็นซอสเลย
สังเกตุร้านนี้คนเยอะ แต่งร้านได้น่านั่งมากกกกกกกกกกกกกกกกก

กินเสร็จไปไหนดีหว่า ลอง scan ดูหน่อยว่าศรีสะเกษมีอะไรน่าไปบ้าง โทรถามเพื่อนๆบอกว่า มีร้านกาแฟน่านั่งหลายร้าน แต่กินกาแฟและกินข้าวแล้ว อยากไปเดินเล่น เพื่อนบอกมี Big C , Lotus และซุ่นเฮงพลาซ่า
ก็เลยไปเดินห้างฆ่าเวลา แล้วตอนเย็นก็ตั้งใจจะไปวิ่งที่เกาะกลางน้ำดูซักหน่อย

ไปถึงเกาะกลางน้ำ อ้าว เค้าจัดงานวิ่งที่นี่หนิ

ก็เลยเดิน scan ดูรอบๆงาน รอแดดร่มลมตก ค่อยวิ่ง

นักกีฬาเริ่มทยอยเข้ามารับ bib เรื่อยๆ ยิ่งตอนเย็นๆยิ่งเยอะ ดูจากกระดานรายชื่อแล้วมีเยอะเลยทีเดียว ( ทราบทีหลังว่ามีประมาณ 2 พันปลายๆ )

เดินเข้าไปดูรอบเกาะ ว้าววว “น่าว่ายน้ำมาก”

สิ่งที่คิดในใจถัดมาคือ “น่าจัดงานไตรกีฬา”

เพราะที่นี่ มีทั้ง lane ปั่นจักรยาน และ lane วิ่ง แยกชัดเจน
แล้ว lane วิ่งและปั่นเนี่ย ก็ล้อมรอบสระน้ำขนาดใหญ่ แล้วตรงกลางสระก็เป็นเกาะกลางน้ำ

คือ ทุกสิ่งทุกอย่าง มันโป๊ะเช๊ะ ดีงาม เหมาะสม ลงตัว สวยงาม บรรยากาศดี Perfect

ไม่น่าเชื่อว่า จังหวัดศรีสะเกษจะทำสถานที่ออกกำลังกายได้ดีขนาดนี้

คือดีกว่าแทบทุกจังหวัดที่เคยไป และดีเทียบเท่าชั้นกรุงเทพ เช่นสวนรถไฟเลย

สำรวจขอบๆเกาะแล้วก็ออกมาดูพื้นที่ต่างๆภายในเกาะ ว่าเค้ามีอะไรบ้าง

มีสนามเด็กเล่น มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวกับน้ำอยู่ภายใน มีการจัด zone ที่จอดรถและที่พักผ่อนได้ดี เสียดายมีร้านค้า ร้านอาหาร ให้เลือกน้อยไปนิดนึง

โดยรวมเกาะกลางน้ำนี้ดีกว่า สวนใหม่ของสุรินทร์หลายด้าน

แต่ที่ศรีสะเกษและสุรินทร์ เค้าตั้งชื่อเหมือนกันนะ คือชื่อว่า “สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ”
โดยที่ศรีสะเกษ เรียกสั้นๆว่า “เกาะห้วยน้ำคำ” หรือ “เกาะกลางน้ำ”
ส่วนที่สุรินทร์ เรียกสั้นๆว่า “สวนใหม่”

สำรวจเสร็จแล้ว แดดก็เริ่มร่ม ได้เวลาสำรวจรอบเกาะ เปลี่ยนรองเท้าวิ่ง แล้วเริ่มเข้า lane วิ่ง

ว้าววว แล้วก็ว้าววว แล้วก็ว้าววว สวยจัง

ณ จุดนี้ … บรรยากาศ Fantasy

มีเราคนเดียวก็วิ่งไป หยุดถ่ายรูปไป แสดงความเป็นคนต่างถิ่นไม่เคยเห็นที่นี่ อย่างชัดเจนหลังจากวิ่งไปได้ซักระยะ ช่วงที่ผ่านเลยปากสะพานไปประมาณ 300 เมตร

เริ่มมี Feeling ทำให้ขนลุก

คือ ตอนวิ่งมองหอคอยเกาะกลางน้ำ ในช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดิน … ตอนนั้นรู้สึกว่ามัน Fantasy มากๆ

วิ่งไป เหมือนหอคอยลอยตามเราไป ตามความเร็วของเรา ( เพราะหอคอยมันใหญ่และไกล )

บรรยากาศสวย แล้วลมเย็นๆ พัดผ่าน เสียงดัง วิ๊วๆ

จำได้ว่า ณ ที่นั้น ขนลุก แล้วพูดในใจ “Feeling โคตร Fantasy”

แต่พอวิ่งผ่านเลยหอคอยไปแล้ว ความรู้สึกนั้นก็หายไป
วิ่งครบรอบได้ระยะ 3.7 กม.
หืมมมม ระยะไกลมาก รอบใหญ่กว่าสุรินทร์เกือบ 2 เท่า
เท่าที่เคยวิ่งตามสวนของจังหวัดต่างๆ ก็มีที่ศรีสะเกษและสวนจตุจักรเนี่ยแหล่ะที่ใหญ่สุด คือมีระยะ 3.7 กม. เท่ากัน ( ยังไม่เคยไปวิ่งสวนหลวง ร.๙ ที่นั่นคงเป็นสวนที่ใหญ่สุด )

วิ่งเสร็จก็ กลับเข้าไปเปลี่ยนรองเท้า(แตะ) แล้วเดินเข้าไปดูในงานอีกรอบว่าเป็นไงบ้าง

งานสมบูรณ์ จัดบูท เตรียมประดับครบถ้วน สำหรับแข่งในวันพรุ่งนี้เช้า

งานนี้จะเริ่ม Start ระยะ Half ตอนตี 04:30 น.
เค้านัดทีม Pacer มากันตอนตี 03:30 น.
นั่นคือ ต้องตื่นประมาณตี 2
และก็คือ นี่ 1 ทุ่มแล้วต้องรีบกินข้าว แล้วรีบเข้านอน

ลองไป scan ตลาดโต้รุ่ง เดินรอบนึง ของกินเยอะดี เยอะกว่าโต้รุ่งบ้านเราอีกแฮะ

กินเสร็จ ก็โทรนัดแนะเพื่อน ว่าเจอที่งานตี 03:30 น. รีบกลับบ้านที่พัก อาบน้ำนอน

พออาบน้ำเสร็จตาสว่าง 4 ทุ่มแล้วก็ยังนอนไม่หลับ เลยต้องใช้ตัวช่วย “MELATONIN” 1 เม็ดหลับเลย

ปลุกตี 2 ง๊วงง่วง เบอร์ดี้ป๋องนึงค่อยคึกคักขึ้นมาหน่อย รีบทำธุระแล้วเดินทางไปถึงงานตอน 03:45 น.

เดินเข้าไปตามที่นัด พบ Pacer หลายคนเลย เยอะมาก เยอะกว่าที่คิด ที่สำคัญคือ “ทุกคนหน้าตาดี” ;-D

ทีม Pacer

ประกอบร่างเข้ากับลูกโป่ง แล้วก็มาประจำขอบถนนด้านหน้า
นักกีฬาแถวหน้า ดูตื่นเต้น ใจจดใจจ่ออยากถีบตัวออก Start กันทุกคน

04:30 น. เสียงแตรดังขึ้น

ภาพโดย MAGIC RUN ครับ

ความรู้สึกคือดีกว่าสุรินทร์แฮะ งานวิ่งสุรินทร์ส่วนใหญ่มีแต่เลียบคลองไปห้วยเสนง แล้วก็วิ่งกลับ

แต่ที่ศรีสะเกษ ปิดถนนวิ่งในเมือง

มีลุง ป้า น้า อา ( คนสูงวัยจะตื่นแต่เช้า ) เปิดประตูบ้านมายืนดู
มีกองเชียร์ แต่จุดต่างๆ

การปิดถนน มีจราจร และเจ้าหน้าที่ควบคุมเส้นทางอย่างดี

เตรียมเส้นทางและจัดการควบคุมงานได้เยี่ยมเลย

ที่สำคัญระยะทางเป๊ะมาก คือ 21.10 กม. ไม่มีขาดไม่มีเกิน ( น้องโรมซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานบอกว่า ทีมงานวัดและจัดเตรียมเส้นทางไว้เป๊ะมาก )

เป็นการวิ่ง Pacer ควบคุมความเร็วครั้งแรกในชีวิต หยุดก็ไม่ดี ชะลอก็ไม่ดี เร็วก็ไม่เหมาะ ต้องดูนาฬิกาเรื่อยๆ ก็สนุกดี

คนศรีสะเกษ วิ่งกันดีมาก ระยะ Half เนี่ย แซง Pacer 2 ชม. 30 นาที ไปเกือบหมด แทบจะไม่เห็นใครอยู่ด้านหลังเลย นั่นคือ คนศรีสะเกษส่วนใหญ่ วิ่ง Half ต่ำกว่า 2 ชม.ครึ่ง

ช่วงก่อนเข้าเส้นชัย รู้สึกว่าจะช้าไปหน่อย ระยะ 300 เมตรสุดท้ายเฮียอั๋นเลยพาเพิ่มสปีดเข้าเส้น มองดูนาฬิกาประมาณ pace 5’10”

เข้าเส้น 21.10 กม. เวลา 2 ชมครึ่ง เป๊ะสุดๆ

ได้วิ่งพร้อมกับเฮียอั๋น เฮียเบนช์ อาซ้อ และน้องโรม ขอบคุณทั้ง 4 ท่าน ( ที่รอผม ^_^ )

กินข้าว ฟังประกาศรางวัล รอรับเสื้อ Finisher แล้วก็พากันไปปล่อยลูกโป่ง
แล้วก็กลับที่พัก
อาบน้ำนอนไปได้ 1 ชม. ก็ scan หาร้านกาแฟ

เพื่อนแนะนำร้าน Cafe De Three

ว้าวววว ว้าวววว ว้าวววว สวยอีกแล้ว

ออกจากร้านกาแฟช่วงบ่าย 2

ไปดู “เอลซ่า” เรื่อง FROZEN II ที่ Big C

ดูคนเดียว ( บอกไว้ เดาว่ามีคนอยากรู้ )
ที่นี่ Big C จะเป็นโรงหนัง MVP
ส่วน Lotus จะเป็นโรงหนัง Major
แต่ MVP หนังฉายเยอะกว่า และมีรอบเยอะกว่า Major แฮะ ( เหมือน Major บน Lotus จะขนาดเล็กว่า MVP )

ดูหนังจบ ตกเย็นไปเดิน “ถนนคนเดิน”

ถนนคนเดิน คล้ายๆไนท์ที่สุรินทร์​ แต่ใหญ่กว่าประมาณ 3-4 เท่า
คนเยอะมากกกกก ของเยอะมากกกก ทั้งของใช้ และของกิน
ได้ลูกหม่อนปั่นกับน้ำส้ม อาหย่อย

ระหว่างขับรถกลับบ้าน ค่อนข้างประทับใจการมาครั้งนี้ ที่ได้สัมผัสหลายๆอย่างของจังหวัด

ศรีสะเกษมีดีหลายด้าน …

1. มีสวนออกกำลังกายที่ Fantasy และ Perfect ( ในความคิดผม )
2. มีร้านกาแฟ สวยๆ บรรยากาศน่านั่ง หลายร้าน
3. มีตลาดถนนคนเดิน ที่ใหญ่และน่าเดิน
4. มีการวิ่งที่ปิดถนน ได้วิ่ง “ใจกลางเมือง” ซึ่งได้ Feel ที่ดี
5. มีโรงหนังให้เลือก 3 แห่ง ( Big C , Lotus , ซุ่นเฮง )

ผู้หลักผู้ใหญ่ สปอนเซอร์ในงาน มีศักยภาพในการจัดงานวิ่งที่ดี หลายฝ่ายช่วยเหลือกัน
สังเกตุงานนี้มีหน่วยงาน องค์กร สปอนเซอร์ และเครือข่ายต่างๆมาร่วมกันประมาณ 30 ราย ทำให้ได้งานที่ดูใหญ่ ออกมาดี

กลับถึงบ้าน เก็บของ สิ่งที่คิดเลยคือ …

“งานวิ่งนี่ อุปกรณ์น้อยดีเนาะ ง่ายดี”

ต่างจากรอบที่แล้ว ทั้งงานปั่นและงานไตรฯ ของพะรุงพะรัง เต็มไปหมด

ได้เสื้อ Finisher มาเป็นที่ระลึก

ขอบคุณเพื่อนปู ขอบคุณเฮียอั๋น ที่มาชวนกัน และร่วมวิ่งงานด้วยกัน
1 ปีที่ผ่านมาเนี่ย พาผมไป Around แทบจะทั่วไทยเลย
แล้วแต่ละงานที่ได้ไป ค่อนข้างเป็นงานสำคัญ และได้ประสบการณ์ที่ดี
ถ้าไม่มีเพื่อนปูคอยชวนนี่ … ผมคงได้ “วิ่งแต่สวนใหม่” ^_^